พิษเทรดวอร์ ไทยเผชิญ “แผลเป็นทางเศรษฐกิจ” สูญเงิน 1.6 ล้านล้าน

02 พฤษภาคม 2568
พิษเทรดวอร์ ไทยเผชิญ “แผลเป็นทางเศรษฐกิจ” สูญเงิน 1.6 ล้านล้าน

ศูนย์วิเคราะห์ Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ประเมินฉากทัศน์ผลกระทบสงครามการค้า ชี้ไทยโดนเก็บภาษี 10% กระทบจีดีพีเหลือ 2% กรณีเลวร้ายโดนเก็บ 36% ฉุดจีดีพีเหลือต่ำ 0.7% ย้ำระยะยาวไทยเจอ “แผลเป็นทางเศรษฐกิจ” คาด 5 ปีข้างหน้ามูลค่าทางเศรษฐกิจเสียหาย 1.6 ล้านล้านบาท กระทบเอสเอ็มอี 4,990 ราย แนะเร่งรับมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิเคราะห์ Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าและความเสี่ยงที่สูงขึ้น ศูนย์วิจัยประเมินผลกระทบจากสงครามการค้าต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ออกเป็น 2 สถานการณ์

Scenario 1 (S1) : ไทยถูกเก็บภาษี 10% (Universal Tariff) ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 หลังจากที่มีการเลื่อนการขึ้นภาษีเต็มรูปแบบออกไป 90 วัน โดยในช่วงครึ่งปีหลังการเจรจากับสหรัฐประสบผลสำเร็จทำให้ภาษีลดเหลือเพียง Universal Tariff ที่ 10% จาก 36% ที่มีการรวม Reciprocal Tariffs ขณะที่ Sectoral Tariff จะถูกเก็บในสินค้ากลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน และกลุ่มเหล็ก ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 โดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ได้รับการยกเว้น

ในสถานการณ์นี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ 2.0% ลดลงจากการประมาณการเดิมที่ 2.7%

Scenario 2 (S2) : ไทยถูกเก็บภาษี 10% (Universal Tariff) ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2568 และในช่วงครึ่งปีหลังได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบจากการขึ้นภาษี Reciprocal Tariffs ที่ 36% นอกจากนี้ Sectoral Tariff จะถูกเก็บในสินค้ากลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน และกลุ่มเหล็ก ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 โดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์จะได้ถูกจัดเก็บตั้งแต่ไตรมาสที่ 3

ในสถานการณ์นี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพียง 0.7% ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ซึ่งการประเมินสถานการณ์ข้างต้นสอดคล้องกับมุมมองของ กนง. ที่คาดว่าเศรษฐกิจระยะข้างหน้ามีความเสี่ยงสูงขึ้น จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 1.75% โดยคาดกรณีผลกระทบปานกลาง เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ 2.0% ขณะที่กรณีผลกระทบรุนแรงเศรษฐกิจอาจขยายได้ 1.3%

แม้ว่าผลกระทบจากสงครามการค้าในครั้งนี้จะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป (Slow Burn) มากกว่าการเกิดผลกระทบทันที (One Time Shock) เช่น ในกรณีโควิด-19 แต่ยังคงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อ GDP ของไทยในปี 2568 โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่เศรษฐกิจอาจชะลอตัวแรงจนอาจเกิดภาวะถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) นอกจากผลกระทบเฉพาะหน้าที่สำคัญ อาทิ การส่งออกจากภาระภาษีที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการลงทุนที่จะต่ำกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากธุรกิจเลื่อนการลงทุนเพื่อรอประเมินสถานการณ์ โดยเฉพาะธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางตรงจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐแล้ว ยังมีผลกระทบระยะถัดไปที่ต้องเตรียมรับมือ ประกอบด้วย

1.แผลเป็นทางเศรษฐกิจ

ผลระยะยาวในรูปแบบของ “แผลเป็นทางเศรษฐกิจ” ดังที่ไทยเคยประสบในช่วงโควิด-19 ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 4 ปีในการทำให้เศรษฐกิจกลับเข้าสู่ระดับก่อนวิกฤต ในครั้งนี้แม้ว่ารูปแบบของวิกฤตจะแตกต่างกัน แต่ก็ทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจสูง

โดยเมื่อพิจารณาจากการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ที่ IMF’s WEO เผยแพร่เมื่อเดือนมกราคม 2568 เทียบกับรอบเมษายน 2568 ที่มีผลกระทบจากสงครามการค้าแล้วนั้น พบว่าในระยะ 5 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจไทยอาจสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 1.6 ล้านล้านบาท

สงครามการค้าที่ขยายวง ส่งผลให้ IMF ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 จาก 3.3% เหลือ 2.8%

Krungthai COMPASS ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ลงเหลือ 2.0% ในกรณีที่ได้รับผลกระทบในระดับปานกลาง และอาจลดลงเหลือ 0.7% ในกรณีที่ได้รับผลกระทบรุนแรง จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7%

โดยมีผลกระทบที่ต้องเร่งรับมือ ทั้ง 1.ผลระยะยาวในรูปแบบของ “แผลเป็นทางเศรษฐกิจ” ที่ทำให้ไทยสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจในระยะ 5 ปีข้างหน้า มูลค่ากว่า 1.6 ล้านล้านบาท และ 2.ผลกระทบต่อธุรกิจ SMEs ไทยกว่า 4,990 ราย ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการภาษีเพิ่มเติมของสหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มที่ส่งออกสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน เหล็ก อะลูมิเนียม และเครื่องใช้ไฟฟ้า


แหล่งที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.